สำหรับนักสะสมเครื่องรางและของขลัง คงไม่มีใครไม่รู้จัก เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังซึ่งล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ทรงเคารพบูชามาก หลวงพ่อปาน เกิดที่คลองนางหงส์ ตำบลบางเหี้ย อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 5 คน ท่านได้บวชเป็นสามเณรที่วัดอรุณวราราม จวบจนอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงได้อุปสมบทเป็นพระ โดยมี ท่านเจ้าคุณศากยมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านศึกษาทางด้านวิปัชสนากรรมฐานรวมไปถึงไสยศาสตร์ และได้รับการถ่ายทอดจากคณาจารย์หลายองค์จนเชี่ยวชาญ
หลังจากที่ได้ศึกษาทางด้านกรรมฐานจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว หลวงพ่อปานก็ได้กราบลาท่านเจ้าคุณศากยมุนี เดินทางกลับมายังวัดบางเหี้ย อันเป็นบ้านเกิด และในการกลับมาในครั้งนี้ได้มีพระภิกษุรูปหนึ่ง ชื่อ หลวงพ่อเรือน ได้ติดตามมาอยู่กับท่านด้วย
ต่อมาหลวงพ่อปานและหลวงพ่อเรือนได้ดั้นด้นเดินทางไปจนถึง วัดอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี และได้ฝากตัวเป็นสานุศิษย์ของ หลวงพ่อแดง เจ้าอาวาสวัดอ่างศิลา โดยได้ศึกษาทางด้านวิปัสสนาธุระไสยเวทย์มนต์ต่าง ๆ
จนเชี่ยวชาญและได้สร้างชื่อเสียงให้กับหลวงพ่อปานเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะ เขี้ยวเสือโคร่ง ซึ่งแกะเป็นรูปเสือนั่ง เมื่อมีความเชี่ยวชาญแล้ว จึงได้อำลาพระอาจารย์ มาพำนักพักอยู่ที่วัดบ้านเกิดของตัวเอง และได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส
โดยมีหลวงพ่อเรือนเป็นรองเจ้าอาวาส ซึ่งทั้งสองรูป ได้ปกครองพระลูกวัด ทั้งด้านการศึกษาและการปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านการปฏิบัติท่านจะอบรมสั่งสอนการปฏิบัติกรรมฐาน ให้แก่พระภิกษุ สามเณร ตลอดจนประชาชนพุทธบริษัทมิได้ขาด และตัวท่านเองก็ได้ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด
ตั้งแต่นั้นมา เสือของหลวงพ่อปานยิ่งเป็นที่เลื่องลือในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก เพราะรัชกาลที่ 5 ทรงสนพระทัยในเรื่องเสือของหลวงพ่อปาน ซึ่งทำให้เขี้ยวเสือของหลวงพ่อปานเป็นที่ต้องการและเสาะแสวงหาของบุคคลทั่วไป ตั้งแต่ชนชั้นสูงในราชสำนักไปจนถึงชาวบ้านธรรมดาทั่วไป ที่อยากจะมีเอาไว้ครอบครองเป็นเจ้าของสักตัว
#maharuoy #หลวงพ่อปาน #เขี้ยวเสือ #เครื่องราง
ขอขอบคุณภาพจาก
- img.tnews.co.th
- lh3.googleusercontent.com
- s.isanook.com