ใกล้เทศกาลตรุษจีนกันแล้ว ซึ่งปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 25 มกราคม
สำหรับชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว วันนี้ถือเป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ ผมเลยคิดว่าอยากจะพาทุกท่านไปชมวัดจีนในเมืองไทยสักวัดหนึ่ง ดังนั้น ผมจึงขอเลือกวัดจีนที่น่าจะเป็นที่รู้จักที่สุดวัดหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
ที่มาของ วัดมังกรกมลาวาส
วัดมังกรกมลาวาส หรือที่เราชอบเรียกว่า วัดเล่งเน่ยยี่ หรือจะออกเสียงว่า วัดเหล่งเหน่ยหยี่ ก็ได้ แล้วแต่สำเนียง ถ้าเรียกเป็นภาษาจีนกลางก็จะออกเสียงว่า ‘หลงเหลียนซื่อ’ สร้างขึ้นในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลือกชัยภูมิสร้างวัดบนเนื้อที่ 4 ไร่ 18 ตารางวา โดยให้พระยาโชฎึกราชเศรษฐี เจ้ากรมท่าซ้าย ร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวจีนดำเนินการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2414 ใช้ระยะเวลาในการสร้างทั้งสิ้น 8 ปี เมื่อสร้างเสร็จจึงได้อาราธนา พระอาจารย์สกเห็ง มาเป็นเจ้าอาวาส และเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร เจ้าคณะใหญ่จีนนิกายรูปแรกของประเทศไทย วัดมังกรกมลาวาสใช้ผังแบบวัดจีน มีรูปแบบศิลปกรรมแบบจีนตอนใต้ ประกอบด้วยอาคารหลักคืออุโบสถตั้งอยู่ตรงกลาง ด้านหน้ามีวิหารจตุโลกบาล ด้านหลังเป็นวิหารบูรพาจารย์ ส่วนด้านซ้ายขวาก็มีวิหารอื่น ๆ อีกหลายหลัง
แก้ชงในกรุงเทพ ที่วัดมังกรกมลาวาส
เมื่อเดินเข้ามาใน วัดมังกรกมลาวาส จากถนนเจริญกรุง เราจะเจอกับทางเข้าหลักที่มุ่งไปยังพื้นที่ด้านใน แต่ก่อนเดินเข้าไป แหงนดูข้างบนสักนิดหนึ่ง มีป้ายจารึกชื่อวัด 2 ป้าย ป้ายแนวนอนเป็นภาษาไทย เขียนว่า ‘ทรงพระราชทานนาม วัดมังกรกมลาวาส’ พร้อมดอกบัวขนาบซ้ายขวา โดยผู้พระราชทานนามวัดแห่งนี้ก็คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ส่วนป้ายแนวตั้งเป็นภาษาจีน ซึ่งเป็นป้ายที่มีความสำคัญเพราะเป็นลายมือของพระอาจารย์สกเห็งผู้สร้างวัดแห่งนี้ ขนาบข้างมีป้ายแขวนคำกลอนคู่ภาษาจีน ฝั่งขวามีความหมายว่า มังกรบินร่อนลงแผ่นดิน ฝั่งซ้ายมีความหมายว่า ประทุมประทีปส่องสว่างกลางเวหา ป้ายกลอนคู่นี้สร้างขึ้นในปีรัชศกกวางสูง ปีที่ 5 ปีเถาะ หรือตรงกับ พ.ศ. 2422 บริเวณทางเข้ามีสิงโตอยู่ 2 ตัว ข้างหนึ่งเป็นตัวผู้ อีกข้างหนึ่งเป็นตัวเมีย วิธีสังเกตเพศของสิงโตนั้นไม่ยาก ถ้าตัวไหนมีลูกสิงโตนั่นคือสิงโตตัวเมีย ส่วนสิงโตตัวผู้จะมีลูกบอลอยู่ใต้อุ้งเท้าครับ
#ความเชื่อ #ปีชง #เสริมดวง #มหารวย